Schizophrenia awareness: รู้ทันโรคจิตเภท
- Gift Parichat

- May 9, 2020
- 1 min read
Updated: Apr 15, 2021
โรคจิตเภท ถือเป็นโรคความผิดปกติทางจิต ที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้จากหลายปัจจัย อาทิเช่น พันธุกรรม การทำงานของสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงสภาพแวดล้อม และความกดดันทางด้านอารมณ์ เป็นต้น

ซึ่งโรคจิตเภทนั้น หากได้รับการรักษาตั้งแต่ช่วงระยะแรกเริ่มของอาการ โอกาสที่ผู้ป่วยจะกลับมา ใช้ชีวิตได้อย่างปกติก็เป็นไปได้สูงเลยทีเดียวค่ะ
ลักษณะอาการของโรคจิตเภท ได้แก่
Hallucinations (การได้ยินเสียงแว่ว/หรือเห็นภาพหลอน ที่ไม่ได้มีอยู่จริง)
Delusions (การมีความเชื่ออย่างหนักแน่น ในสิ่งที่ผิดไปจากความเป็นจริง เช่น มีความเชื่อว่า เพื่อน หรือบุคคลรอบตัว ต้องการจะทำร้ายตน เป็นต้น)
Disorganized thinking/ speech (การมีรูปแบบความคิดที่สับสน รวมถึงการสื่อสารที่ไม่คล้องจองกับสถานการณ์ที่ควรเป็น เช่น การให้คำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม การเติมศัพท์ที่ไม่เกี่ยวข้อง จนทำให้มีความสับสนในการสื่อสารกับผู้คนรอบข้าง)
Disorganized movement/behavior (มีลักษณะ ท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น การแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมตามอายุ รวมถึงการไม่แสดงการตอบสนอง ทางด้านท่าทางและอารมณ์ต่อบุคคลรอบข้าง เป็นต้น)
Negative symptoms เช่น ผู้ป่วยอาจมีการแสดงออกทางด้านอารมณ์ ลดน้อยลง มีความละเลยที่จะดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของตนเอง เป็นต้น
Prevalence rate (อัตราความชุกของการเกิดโรค): จากงานวิจัย พบว่า โรคจิตเภท พบได้ ร้อยละ 1 หรือ 1% ในจำนวนประชากรทั่วไป แต่ในกรณีของบุคคลที่มีญาติสืบต่อทางสายเลือด ที่มีอาการของโรคจิตเภท ก็จะมีโอกาสสูงขึ้นที่จะ เป็นโรคนี้ได้
โดย โรคจิตเภท เป็นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย และอัตราการเกิดโรคมีเท่าเทียมกัน
โดยในเพศชาย จะเริ่มแสดงในช่วงวัย วัยรุ่นตอนต้น จนถึงวัยรุ่นตอนปลายหรือวัย 20 ตอนต้น แต่ในเพศหญิงจะเริ่มแสดงอาการช้ากว่า ในประมาณช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป
"และสิ่งที่ดิฉันต้องการเน้นย้ำกับท่านผู้อ่านทุกท่าน นั่นก็คือ ปัจจัยที่อาจเป็นตัวกระตุ้น ที่ทำให้เกิดโรคจิตเภท... ที่เราควรคำนึงถึง... "
ได้แก่...
1. พันธุกรรม หากคุณมีบุคคลในครอบครัว หรือญาติทางสายเลือด ที่มีอาการของโรคจิตเภท คุณก็อาจจะยิ่งต้องระวังมากขึ้น เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง ของการเกิดโรคก็อาจเป็นไปได้สูงขึ้น
2. ความเครียด ในภาวะที่ร่างกายและจิตใจต้องเจอกับความเครียดและความกดดัน ก็อาจถือเป็นอีกตัวกระตุ้น ที่ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจได้ ดังนั้น การคอยพยายามสังเกตุอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอ และพยายามผ่อนคลายความเครียดด้วยการคิดบวก ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ รายล้อมตนเองด้วยกลุ่มคนที่จะนำความสุขใจ ความสบายใจมาให้ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องตัวเราจากความเครียด เพื่อที่จะไม่ทำให้จิตใจ เกิดความอ่อนไหว และเกิดความเสี่ยงต่อโรคสุขภาพจิตชนิดต่างๆได้
** 3. สารเสพติด ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาท อาทิเช่น กัญชาและใบกระท่อม เป็นต้น โดยเฉพาะในกรณีของน้องๆวัยรุ่น เนื่องจากมีหลายๆงานวิจัยพบว่า การริลองหรือใช้สารเสพติดเหล่านี้ ก็อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของสารเคมีในสมอง ที่อาจนำไปสู่สาเหตุของโรคจิตเภทได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบุคคลในครอบครัว มีประวัติของโรคจิตเภท มีอัตราความเสี่ยง ที่การใช้สารเสพติด จะไปกระตุ้นอัตราการเกิดโรค ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ดังนั้น จึงอยากขอฝากเตือนทุกๆท่าน ให้ระมัดระวังข้อนี้ด้วยค่ะ
4. ภาวะความผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์ อาทิเช่น การติดเชื้อไวรัสบางประเภทระหว่างช่วงตั้งครรภ์ของมารดา ภาวะการขาดสารอาหาร รวมถึงการได้รับสารพิษในช่วงตั้งครรภ์ เป็นต้น
(** มีความสำคัญและควรต้องตระหนักถึงเป็นพิเศษ)
แล้วเราจะปกป้องตัวเราอย่างไร ให้ห่างไกลโรคจิตเภท??
จากการศึกษาพบว่าโรคจิตเภทนั้น ยังไม่มีตัวยาใด มาใช้ป้องกันหรือลดความเสี่ยงของโรคได้
แต่ก็มีหลายๆงานวิจัย พบว่า พันธุกรรม ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด ว่าบุคคลนั้นจะต้องเกิดโรคจิตเภทขึ้นแน่นอน...
เนื่องจาก การทำงานของยีนส์นั้น ประกอบไปด้วยหลายๆปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาวะอารมณ์ และสิ่งแวดล้อมของบุคคลนั้นๆ ดังนั้น ถึงแม้ว่าบุคคลหนึ่งจะมียีนส์ หรือประวัติของบุคคลในครอบครัวที่มีอาการของโรคจิตเภทอยู่ นั่นก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตี ว่าบุคคลคนนั้น จะต้องมีอาการของโรคจิตเภทด้วยเช่นกันเสมอไป
เนื่องจากหากสภาพแวดล้อม ของบุคคลคนนั้น ไม่ได้ตกอยู่ในภาวะที่sensitive ต่อการเกิดโรค ยีนส์ต่างๆในร่างกาย ก็อาจจะไม่ได้รับการกระตุ้น หรือ activate ที่นำมาสู่การเกิดโรค
ดังนั้น บุคคลผู้นั้นก็อาจจะไม่ได้รับการส่งต่อทางพันธุกรรมของโรคความผิดปกติต่างๆได้
เพราะฉะนั้น เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เราจึงควรหันมาสร้างสภาวะแวดล้อมของเรา ให้ไม่นำไปสู่การเกิดโรคได้โดยง่ายกันดีกว่าค่ะ โดยสิ่งสำคัญคือ
ในกลุ่มวัยรุ่น
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด อาทิเช่น กัญชา ใบกระท่อม รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด ในช่วงวัยวัยรุ่น (เนื่องจากสมองของช่วงวัยนี้ มีความอ่อนไหว ต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้นการทำงานของสมองมากเป็นพิเศษ)
พยายามไม่ปลีกตัวออกจากสังคม
พยายามมองหากลุ่มเพื่อน ที่จะทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน
เรียนรู้ที่จะคิดบวก และมองโลกในแง่ดี
พยายาม เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดให้มีประสิทธิภาพที่สุด เท่าที่จะทำได้
มองหาทางช่วยเหลือ หรือปรึกษาผู้ใหญ่ หากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความกังวลใจ
ในกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อฝากครรภ์และดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์
พยายามทานวิตามินที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วน
รักษาสุขอนามัยในช่วงการตั้งครรภ์
ทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี และควรปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการเจ็บป่วย
พยายามรักษาสุขภาพใจ และผ่อนคลายความเครียด
ซึ่งดิฉันก็หวังว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะปกป้องสภาพจิต สภาพใจของเรา ให้มีความสมบูรณ์ เข้มแข็ง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บต่างๆไปได้นะคะ
ขอให้ทุกท่าน ดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ให้แข็งแรง อยู่เสมอค่ะ
The Body &Soul ดูแลสุขภาพจิต ดูแลสุขภาพใจ
Gift Parichat






Comments